เสน่ห์ Soft Power ไทย เจิดจรัสกลางกรุงวอชิงตัน ในงาน Spring Meetings 2025
โหมโรงความพร้อมสู่เจ้าภาพ Annual Meetings 2026
ปิดฉากลงอย่างงดงาม สำหรับ Spring Meetings 2025 งานประชุมระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund - IMF) และ ธนาคารโลก (World Bank Group) ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจการเงินโลก และแนวทางการรับมือกับความท้าทายในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ หนี้สิน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นโอกาสให้ไทยได้แสดงบทบาทในการผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของไทย ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศสมาชิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลก ด้วยการนำเสนออัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม พร้อมไฮไลต์สำคัญอย่าง บูธจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมในธีม “ผ้าไทย” ที่จัดขึ้นโดย กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อนำเสนอ Soft Power ซึ่งเปรียบเสมือนกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่สายตาชาวโลก ทั้งยังเป็นการตอกย้ำศักยภาพความพร้อมการเป็นเจ้าภาพการประชุม IMF-WBG Annual Meetings 2026 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย อีกด้วย
นาง คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการ IMF ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม IMF-WBG Annual Meetings ในปีหน้าว่า "ประเทศไทยได้สร้างความประทับใจอย่างยิ่งในการนำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ในงาน Spring Meetings 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม IMF-WBG Annual Meetings 2026 ที่จะเกิดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองของไทยในรอบ 35 ปี ดิฉันขอแสดงความยินดีกับประเทศไทยอย่างยิ่ง และเชื่อมั่นว่าการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในทุกด้าน ทั้งการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการคมนาคมของภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมการพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั่วถึง และยั่งยืน"
โดยใน Spring Meetings 2025 กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ นำเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยอันงดงามวิจิตร มาตีแผ่สู่สายตานานาชาติ ผ่านการแสดงที่ครบองค์ประกอบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ไม่ว่าจะเป็น
ไหมไทย ภูมิปัญญาสะท้อนวิถีแห่งชีวิต
เสื้อผ้าคือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่สำคัญต่อวิถีชีวิตมนุษย์ วัฒนธรรมการนุ่งห่มที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นสะท้อนถึงวิถีการดำเนินชีวิต ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ภูมิปัญญา สื่อสารเรื่องราวของคุณค่าทางใจที่สืบทอดกันมาผ่านวัตถุดิบสิ่งทอและลวดลายบนเครื่องนุ่งห่ม โดยภายในงาน ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการ ‘ผ้าไหมไทย’ เล่าเรื่องราวของวงจรชีวิตไหมไทยแบบดั้งเดิมที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ตั้งแต่การเลี้ยงไหม การย้อมสีธรรมชาติ ไปจนถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ถือเป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนการจัดแสดง ‘แผนที่ผ้าไทย’ ซึ่งนำเอกลักษณ์ผ้าจากแต่ละภาคมารังสรรค์เป็นแผนที่ประเทศไทย ได้แก่
ผ้าผืนน้ำเงินภาคเหนือ - ผ้าไหมยกดอกลำพูน จากจังหวัดลำพูน โดดเด่นด้วยเทคนิคการปักที่เรียกว่า ‘ยกดอก’ ที่สร้างลวดลายนูนขึ้นบนผืนผ้าโดยการยกเส้นไหมยืนขึ้นลงขณะทอ ทำให้มีมิติสลับซับซ้อน ลวดลายส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ ใบไม้ สัตว์ หรือลวดลายเรขาคณิต ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ผ้าผืนสีแดงภาคอีสาน - ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ จากจังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้เทคนิคการทอแบบ ‘จก’ ซึ่งเป็นการใช้ขนเม่นหรือไม้แหลมจกหรือล้วงเส้นไหมสีต่างๆ สอดแทรกเข้าไปในเส้นไหมยืนทีละเส้น เพื่อสร้างลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความเชื่อท้องถิ่น เช่น ลายนาค ลายดอก ลายสัตว์
ผ้าผืนสีเขียว ภาคกลาง - ผ้าจกลาวครั่ง จากอุทัยธานี ใช้เทคนิคการทอแบบจก เหมือนผ้าไหมแพรวา แต่ลวดลายจะมีความเป็นเอกลักษณ์ของชาวลาวครั่ง และมักใช้เส้นฝ้ายเป็นส่วนประกอบในการทอ มีสีสันสดใสและหลากหลาย เช่น สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง ซึ่งเกิดจากการย้อมสีธรรมชาติหรือสีสังเคราะห์
ผ้าผืนสีเหลืองส้ม ภาคใต้ - ผ้ายกเมืองนคร จากจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้เทคนิค ‘ยก’ คล้ายผ้าไหมยกดอก แต่มีลักษณะเฉพาะตัวคือการใช้ไม้หรือเครื่องมือพิเศษยกเส้นไหมยืนขึ้นเพื่อให้เกิดลวดลายนูน ส่วนใหญ่มักเป็นลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น ลายดอกพิกุล ลายกินรี ลายเทพพนม
นอกจากนั้น ยังจัดแสดงผลงานการประกวดผ้าไทยระดับประเทศ จากฝีไม้ลายมือดีไซเนอร์ไทยคนรุ่นใหม่ ผสมผสานความเป็น Modernism เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบที่ทันยุคทันสมัย สร้างสรรค์ผลงานชุดไทยให้ไม่ตกยุค สร้างความประทับใจจากผู้เยี่ยมชมบูธเป็นอย่างมาก
ดนตรีและนาฏกรรมไทย เปิดประตูสู่ความประทับใจ
เสียงดนตรีและการแสดงนาฏกรรมท้องถิ่น เป็นภาษาที่สื่อสารเรื่องราว ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ค่านิยม และวิถีชีวิตของผู้คนที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น สะท้อนภาพความงดงามอันประเมินมูลค่ามิได้ เช่นเดียวกับดนตรีและนาฏศิลป์ไทย ภายในงานมีการบรรเลงดนตรีประกอบที่เน้นทำนองสนุกสนาน เร้าใจ โดยใช้เครื่องดนตรีในรูปแบบวงมโหรี ได้แก่ ขิม ระนาดเอก กลอง ซออู้ และซอด้วง ที่สามารถบรรเลงได้ทั้งเพลงคลาสสิคและเพลงพื้นบ้าน พร้อมด้วยการแสดงนาฏศิลป์ไทย โดย คณะรำไทยโสมภา (Somapa Thai Dance Company) ซึ่งภายในงานได้แสดงรำไทย 2 ชุด ต่อหน้าแขกผู้เข้าร่วมการประชุม ได้แก่
รำพระแม่โพสพ การแสดงนาฏกรรมไทยแบบดั้งเดิมของภาคกลาง สะท้อนถึงวิถีชีวิตสังคมเกษตรกรรมที่ผูกพันกับการทำนาและการบูชาพระแม่โพสพ เทพีแห่งข้าว โดยมีการทำขวัญข้าวเพื่อขอขมาและขอบคุณก่อนการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว สื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศเกษตรกรรมที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ระบำท้องถิ่นภาคอีสาน แสดงศิลปะอันสนุกสนานและมีชีวิตชีวาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยชุดของนางรำเป็นผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ เพื่อเชิดชูความงดงามของผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผลผลิตจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพที่ส่งเสริมการสร้างอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่น
สร้างภาพจำผ่านรสล้ำของอาหารไทย
การจัดเลี้ยงอาหารไทยในงาน Spring Meetings 2025 มิใช่เพียงการมอบประสบการณ์ด้านรสชาติ แต่เป็นการส่งมอบความรู้สึกที่อบอวลไปด้วยวัฒนธรรมไทยสู่ปลายลิ้นของผู้คนจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น หมูสเต๊ะหอมกรุ่น ยำรวมมิตรคลุกเคล้าหลากรส เต้าหู้ทอดกรอบนอกนุ่มใน ไปจนถึงแกงมัสมั่น อาหารที่เคยได้รับรางวัล “อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก” จาก CNNGo ในปี 2011 อาหารเหล่านี้เป็นตัวแทนของความหลากหลายทางวัฒนธรรม สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการปรุงแต่ง ความสมดุลของรสชาติ และความใส่ใจในวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ อันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่สืบทอดมายาวนาน การได้ลิ้มลองอาหารเหล่านี้จึงเป็นการเปิดประตูสู่ความเข้าใจในวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง สร้างความประทับใจที่มิอาจลืมเลือน และยังเป็นการจุดประกายความสนใจในอาหารไทย ซึ่งนำไปสู่การต่อยอดทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหาร การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก
การจัดนิทรรศการ การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการนำเสนออาหารไทยในงาน Spring Meetings 2025 ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบของ Soft Power ที่ประเทศไทยจะได้นำเสนอแก่ผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลก ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ ความงดงาม และเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย ในโอกาสที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกในปีหน้า