ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 แบบเต็มคณะ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 แบบเต็มคณะ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นเวทีพหุภาคีครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับติมอร์-เลสเต เป็นสมาชิกอาเซียน ยืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนติมอร์-เลสเต ในการดำเนินการตามกระบวนการเข้าสู่อาเซียนต่อไป 

โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำบทบาทของอาเซียนในการเป็นเสาหลักของนโยบายต่างประเทศของไทย ซึ่งไทยพร้อมทำงานร่วมกับประเทศสมาชิก เพื่อผลักดันประโยชน์ที่แท้จริงสู่ประชาชน เน้นย้ำ 3 แนวทางสำคัญ คือ 

1. การสร้างประชาคมอาเซียนที่มั่นคงปลอดภัยสำหรับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่กระทบต่อชีวิตประจำวัน ทั้ง อาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงทางออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ไทยพร้อมทำงานกับประเทศสมาชิกอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับภัยคุกคามร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง และการปฏิบัติการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปกป้องคุณภาพชีวิตของประชาชนจากมลพิษข้ามพรมแดน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และโรคระบาด ผ่านการเร่งเสริมศักยภาพของศูนย์อาเซียนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) 

2. การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน ผ่านการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่อาเซียนสามารถลงนามในความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement: ATIGA) ฉบับปรับปรุง และความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน ฉบับที่ 3 ได้ในระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งนี้ หวังว่าอาเซียนจะสามารถลงนามในกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) ได้ภายในปีหน้า ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลงทุนในพลังงานสะอาด โครงการโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid) รวมถึงการเงินสีเขียว เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

3. การเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ โดยยึดมั่นต่อระบบที่ตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ เพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมทั้งส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับภาคีภายนอก ภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโด - แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific: AOIP) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ (Strategic Autonomy) ของอาเซียน เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมบทบาทของอาเซียนในเวทีโลก ในฐานะพลังแห่งสันติภาพ ความมั่งคั่ง และความก้าวหน้า 

นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีต่อความสำเร็จในการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซียในปีนี้ และพร้อมสนับสนุนฟิลิปปินส์ในการเป็นประธานอาเซียนปีหน้า ซึ่งเป็นปีที่อาเซียนจะขับเคลื่อน “วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045” ร่วมกัน

สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 แบบเต็มคณะ ที่ประชุมได้ร่วมกันรับรองเอกสารการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน 16 ฉบับ และมาเลเซียได้ออกแถลงการณ์ของประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 (Chairman’s Statement of the 47th ASEAN Summit) จำนวน 1 ฉบับ หลังจากนั้น ผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบสารแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ฉบับที่ 2

ความคิดเห็น

สงวนลิขสิทธิ์ 2022 โดย กรมประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าชม : 105,424,303