“ศุภมาส” สั่งการ NBT กรมประชาสัมพันธ์ จับมือ อสมท. ปรับผังสื่อรัฐ เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้แบบเรียลไทม์ หลัง ครม. มีมติเห็นชอบ ให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ประชาชนรับข้อมูลที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างว่า ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่เสี่ยง หลังคณะรัฐมนตรีมีมติให้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว บูรณาการกำลัง และเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันเวลา ทั้งด้านการอพยพ การลำเลียงผู้ประสบภัย การจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และที่พักพิง รวมถึงอุปกรณ์ยังชีพเร่งด่วน

นางสาวศุภมาสกล่าวว่า รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการช่วยเหลือทุกด้านกำลังดำเนินไปเต็มกำลัง โดยเฉพาะด้วย พระมหากรุณาธิคุณของในหลวง พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงห่วงใยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ได้พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ รวมถึงถุงยังชีพพระราชทานและโรงครัวพระราชทานลงพื้นที่ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

ในส่วนของการสื่อสาร นางสาวศุภมาสได้สั่งการให้ NBT กรมประชาสัมพันธ์ และ อสมท. ปรับผังรายการและขยายการรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ลดความสับสนในช่วงสถานการณ์วิกฤติ

สถานีโทรทัศน์ NBT ได้ล้มผังรายการปกติและออกอากาศรายการพิเศษ “เกาะติดน้ำท่วมใต้” ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 น. รายงานสถานการณ์จากพื้นที่จริงตลอดทั้งวันจนถึงเวลา 24.00 น. พร้อมขยายสัญญาณไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ของกรมประชาสัมพันธ์ เช่น Facebook YouTube TikTok NBT Connext และเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดต่างๆ ในพื้นที่น้ำท่วม โดยเฉพาะ สวท. สงขลา FM 90.5 MHz ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลหลักของภาคใต้

ด้าน อสมท. ได้ร่วมเชื่อมสัญญาณรายการพิเศษจาก NBT และเพิ่มการรายงานในข่าวเช้า ข่าวเที่ยง และข่าวค่ำ พร้อมระดมสถานีวิทยุเครือข่ายภาคใต้ทั้ง 10 สถานี เพื่อติดตามสถานการณ์จริงและรายงานข้อมูลที่จำเป็นให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลยังได้จัดทำ ระบบข้อมูลกลางแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ระดับน้ำ จุดถนนขาด สถานะไฟฟ้า น้ำประปา เส้นทางอพยพ และจุดรับส่งผู้ประสบภัย โดยเผยแพร่ผ่านทุกสื่อ ทั้งทีวี วิทยุ และออนไลน์ ได้แก่ ช่อง 9 ช่อง 11 เพจกรมประชาสัมพันธ์ เพจสวท.สงขลา และ FM 90.5 MHz เพื่อให้ประชาชนสามารถประเมินสถานการณ์และตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที